GSL หลักสูตรฝึกอบรม การยกร่างข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศในสถาบันอุดมศึกษาให้ถูกต้องตามขอบเขตของกฎหมาย เพื่อการบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ

การยกร่างข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศในสถาบันอุดมศึกษาให้ถูกต้องตามขอบเขตของกฎหมาย เพื่อการบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ

เกี่ยวกับหลักสูตร

ชื่อหลักสูตรอบรม

หลักสูตรการยกร่างข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศในสถาบันอุดมศึกษาให้ถูกต้องตามขอบเขตของกฎหมาย เพื่อการบังคับใช้อย่างมีประสิทธิภาพ

หลักการและเหตุผล

          ในการบริหารประเทศจำเป็นต้องอาศัยกฎหมายเป็นเครื่องมือสำคัญทั้งในการผลักดันนโยบายและมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้การบริหารงานประสบความสำเร็จ รัฐสภาผู้ใช้อำนาจนิติบัญญัติจะดำเนินการตรากฎหมายระดับพระราชบัญญัติที่กำหนดหลักเกณฑ์หลัก ๆ  ในการใช้อำนาจบริหารของหน่วยงานของรัฐ แต่ในการตรากฎหมายของรัฐสภาซึ่งเป็นฝ่ายนิติบัญญัติไม่สามารถกำหนดรายละเอียดทุกเรื่องไว้ในพระราชบัญญัติได้ ฝ่ายนิติบัญญัติจึงมีการมอบอำนาจให้ฝ่ายบริหารไปกำหนดรายละเอียดของการบังคับใช้กฎหมายต่อไป เรียกว่า “กฎหมายลำดับรอง” โดยการมอบอำนาจจะมีขึ้นได้เพียงเพื่อการบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมาย  “กฎหมายลำดับรอง” จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อให้การบริหารงานประสบความสำเร็จ การส่งเสริมและสนับสนุนแก่บุคลากรทางกฎหมายของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐในการทำหน้าที่ยกร่างกฎหมายลำดับรองอย่างถูกต้องตามขอบเขตที่กฎหมายกำหนด เหมาะสมต่อกาลสมัย และทันต่อสถานการณ์ จึงเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้การใช้บังคับกฎหมายเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและลดข้อขัดแย้ง 

          นอกจากนี้ สถาบันอุดมศึกษาต่าง ๆ ทั้งในรูปแบบส่วนราชการ และสถาบันอุดมศึกษาในกำกับของรัฐ ซึ่งกฎหมายได้กำหนดให้ออกข้อบังคังคับ ระเบียบ ประกาศ คำสั่งต่าง ๆ เพื่อให้การบริหารงานให้มีความคล่องตัว ทันต่อการเปลี่ยนแปลงสอดคล้องกับเป้าหมายที่กำหนดไว้ ซึ่งการออกกฎหมายลำดับรองเพื่อทำหน้าที่ด้านต่าง ๆ ได้แก่ ด้านการวิจัยและบริการวิชาการ ด้านการศึกษา ด้านการเงินและการตรวจสอบ ด้านการบริหารงานบุคคล จึงมีความจำเป็นเพื่อนำมาใช้บังคับอย่างมีประสิทธิภาพ

          ดังนั้น เพื่อให้บุคลากรในสถาบันอุดมศึกษาที่มีความเกี่ยวข้องกับการออกกฎหมายลำดับรอง มีความรู้ความสามารถในการยกร่างกฎหมาย  อันจะส่งผลให้การปฏิบัติงานของสถาบันอุดมศึกษาบรรลุวัตถุประสงค์ของการบริหารราชการแผ่นดินที่ดี มีประสิทธิภาพ ถูกต้องตามหลักนิติธรรมและหลักธรรมาภิบาล สมควรที่จะได้มีการจัดฝึกอบรมหลักสูตรการร่างกฎหมายลำดับรอง เพื่อพัฒนาความรู้ทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติเพื่อเพิ่มทักษะแก่ผู้ปฏิบัติงานในสถาบันอุดมศึกษาดังกล่าว

วัตถุประสงค์ของหลักสูตร

  1. เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานในสถาบันอุดมศึกษามีความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับกระบวนการจัดทำและยกร่างกฎหมาย การตรวจมีความรู้ ความเข้าใจ หลักการยกร่างกฎหมายลำดับรอง
  2. เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานในสถาบันอุดมศึกษาสามารถร่างกฎหมายลำดับรองได้อย่างถูกต้องตามขอบเขตที่กฎหมายกำหนดและมีประสิทธิภาพ ตามรูปแบบของกฎหมาย โครงสร้างของกฎหมาย และภาษากฎหมาย
  3. เพื่อให้ผู้ปฏิบัติงานในสถาบันอุดมศึกษาสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ที่คาดจะได้รับ

  1. ผู้ปฏิบัติงานในสถาบันอุดมศึกษาที่เกี่ยวข้องกับการยกร่างกฎหมายลำดับรองของสถาบันอุดมศึกษามีความรู้ความเข้าใจในหลักการยกร่างกฎหมายลำดับรอง
  2. ผู้ปฏิบัติงานในสถาบันอุดมศึกษาสามารถยกร่างกฎหมายลำดับรองได้อย่างถูกต้องตามขอบเขตที่กฎหมายกำหนด เพื่อให้การใช้อำนาจในการบริหารงานของสถาบันอุดมศึกษาตามกฎหมายลำดับรองเป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมาย
  3. เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และประสบการณ์ระหว่างผู้ปฏิบัติงานด้านการร่างกฎหมายในสถาบันอุดมศึกษา

รูปแบบกิจกรรมและเนื้อหา

  •  รูปแบบ
    • การบรรยาย
    • กรณีศึกษา
    • การฝึกปฏิบัติ
  • เนื้อหา
    • หลักการในการยกร่างระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ
    • รูปแบบ Format ในการเขียน
    • ภาษา การเขียนในทางกฎหมาย
    • ความเชื่อมโยงของระเบียบ ข้อบังคับ และกฎหมายที่สูงกว่า
    • ข้อควรระวังและปัญหาที่พบบ่อยในการยกร่าง

เนื้อหาการอบรม

  1. ความเชื่อมโยงระหว่างกฎหมายจัดตั้งสถาบันอุดมศึกษา การปฏิรูปการอุดมศึกษาและสถาบันอุดมศึกษา
  2. ที่มาของอนุบัญญัติ : ความสัมพันธ์ระหว่างกฎหมายแม่บทและอนุบัญญัติ
  3. หลักการยกร่างอนุบัญญัติ และโครงสร้างของอนุบัญญัติ

กลุ่มเป้าหมายผู้เข้ารับการอบรม

นิติกรหรือผู้ปฏิบัติงานในสถาบันอุดมศึกษาซึ่งมีหน้าที่ในการยกร่างกฎหมายลำดับรอง

ค่าลงทะเบียน

  • บุคคลทั่วไป 3,900 บาท
  • นักศึกษาปัจจุบัน ศิษย์เก่า และบุคลากรของสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ 3,500 บาท

ค่าลงทะเบียนรวมค่าเอกสารประกอบการอบรม ค่าอาหารกลางวัน ค่าอาหารว่าง และค่าใบรับรองผ่านการอบรมแล้ว

การวัดผลและการสำเร็จการฝึกอบรม

  1. ผู้เข้าร่วมอบรมจะต้องเข้ารับการอบรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของระยะเวลาการอบรมทั้งหมด และการประเมินความพึงพอใจในการจัดกิจกรรม โดยจะได้รับประกาศนียบัตรหลังจากเสร็จสิ้นการอบรม
  2. ผู้เข้าร่วมอบรมจะต้องสอบผ่านการวัดความรู้ ภายใต้เงื่อนไขว่า ต้องทำกิจกรรมการร่างข้อบัญญัติท้องถิ่น ซึ่งได้คะแนนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 60

หมายเหตุ:

  • ผู้เข้ารับการอบรมจะได้รับแจ้งผลคะแนนการทำกิจกรรมฯ ทางอีเมล ภายใน 1 สัปดาห์ นับจากวันสิ้นสุดการอบรม
  • หนังสือรับรองการผ่านกิจกรรมการร่างข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศในสถาบันอุดมศึกษาจะถูกส่งไปยังที่อยู่ผู้เข้ารับการอบรมได้แจ้งไว้ภายใน 3 สัปดาห์ นับจากวันสิ้นสุดการอบรม

ผู้บริหารโครงการ

  1. ศาสตราจารย์พิเศษ ดร.วรรณชัย  บุญบำรุง
  2. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พัชรวรรณ  นุชประยูร

ติดต่อสอบถาม

  • คุณกิตติกา  โกศลจิตร (เมย์) โทร. 0-2727-3660 / 095-2549657
  • Line Official : @LawNIDA