GSL หลักสูตร หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิตMaster of Laws (LL.M.)
น.ม.
Master of Laws (LL.M.)

หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต

  • หลักสูตรได้รับการรับรองจาก ก.ต. ก.อ.
  • ภาคปกติ (เรียนวันจันทร์- วันศุกร์)
  • ค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรประมาณ 120,000.- บาท
  • อยู่ระหว่างการเปิดรับสมัคร รุ่นที่ 24
  • ภาคพิเศษ (เรียนวันเสาร์- วันอาทิตย์)
  • ค่าใช้จ่ายตลอดหลักสูตรประมาณ 200,000.- บาท
  • เปิดรับสมัคร รุ่นที่ 24 ตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 16 เมษายน 2568

เกี่ยวกับหลักสูตร

ชื่อปริญญาและสาขาวิชา

นิติศาสตรมหาบัณฑิต (น.ม.)
Master of Laws (LL.M.)

สาขาวิชาเอกและความเชี่ยวชาญเฉพาะหลักสูตร

  1. สาขากฎหมายวิชาเอกกฎหมายเอกชน (Private Law)
  2. สาขาวิชาเอกกฎหมายมหาชน (Public Law)
  3. สาขาวิชาเอกกฎหมายธุรกิจและการค้าระหว่างประเทศ (International Business and Trade Law)
  4. สาขาวิชาเอกกฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา (Criminal Law and Criminal Justice Administration)

สาขาวิชาเอกที่จะเปิดในอนาคต

  1. สาขาวิชาเอกกฎหมายระหว่างประเทศและประชาคมอาเซียน (International Law and ASEAN Community)
  2. สาขาวิชาเอกกฎหมายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (Natural Resources and Environmental Law)

ปรัชญาของหลักสูตร

มุ่งผลิตมหาบัณฑิตในสาขานิติศาสตร์ที่มีความรู้ความสามารถสูง มีคุณธรรม มีความเชี่ยวชาญทางด้านกฎหมาย สามารถคิด วิเคราะห์ วินิจฉัยกฎหมาย และใช่กฎหมายเพื่อประกอบอาชีพ ผดุงความยุติธรรมของสังคม และเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ

โครงสร้างหลักสูตร

หมวดวิชาหลักสูตร แผน ก2หลักสูตร แผน ข
1. หมวดวิชาเสริมพื้นฐานไม่นับหน่วยกิตไม่นับหน่วยกิต
2. หมวดวิชาหลัก9 หน่วยกิต9 หน่วยกิต
3. หมวดวิชาเอก15 หน่วยกิต15 หน่วยกิต
4. หมวดวิชาเลือก3 หน่วยกิต12 หน่วยกิต
5. วิชาการค้นคว้าอิสระ3 หน่วยกิต
6. วิทยานิพนธ์12 หน่วยกิต
7. การสอบประมวลความรู้โดยสอบข้อเขียน
รวม39 หน่วยกิต39 หน่วยกิต

ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง  (Expected Learning Outcomes : ELO)

ELO 1ใช้กฎหมายภายใต้หลักนิติธรรมเพื่อการพัฒนาสังคมอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน
ELO 2เข้าใจและวิเคราะห์เปรียบเทียบ หลักปรัชญา แนวคิด ทฤษฎีทางกฎหมาย และแนวคำพิพากษาของศาลไทย และศาลต่างประเทศ
ELO 3เข้าใจและประยุกต์ใช้องค์ความรู้ทางกฎหมาย ให้สอดคล้องกับบริบททางสังคมได้อย่างถูกต้องตามหลักนิติวิธี
ELO 4บูรณาการองค์ความรู้เพื่อพัฒนาทักษะความเป็นนักนิติศาสตร์เพื่อการพัฒนา
ELO 5เสริมสร้างทักษะความเป็นผู้นำ การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้เทคโนโลยี และการเรียนรู้ตลอดชีวิต

อาชีพที่สามารถประกอบได้หลังจบการศึกษา

  1. บุคลากรในกระบวนการยุติธรรม อาทิ ตำรวจ อัยการ ผู้พิพากษา
  2. พนักงานคดีปกครอง
  3. นิติกร
  4. นักกฎหมายในภาครัฐและเอกชน
  5. ทนายความ
  6. อาจารย์ และนักวิชาการด้านกฎหมายและสังคมศาสตร์
  7. นักการเมืองและข้าราชการการเมือง
  8. นักกฎหมายในองค์การระหว่างประเทศและองค์กรพัฒนาเอกชน
  9. อาชีพอิสระอื่น ๆ

ระบบการจัดการศึกษา

เป็นการศึกษาระบบทวิภาค ปีการศึกษาหนึ่งๆ แบ่งออกเป็น 2 ภาคการศึกษาปกติโดยหนึ่งภาคปกติมีระยะเวลาการศึกษาไม่น้อยกว่า 15 สัปดาห์ และอาจเปิดการศึกษาภาคฤดูร้อนที่กำหนดระยะเวลาและจำนวนหน่วยกิต เทียบเคียงได้กับภาคการศึกษาภาคปกติ

หลักสูตรปรับปรุง พ.ศ. 2560 (สำหรับนักศึกษาที่เข้าเรียนก่อนภาค 1/2565)

ชื่อปริญญาและสาขาวิชา

นิติศาสตรมหาบัณฑิต (น.ม.)
Master of Laws (LL.M.)

สาขาวิชาเอกและความเชี่ยวชาญเฉพาะหลักสูตร

นิติศาสตรมหาบัณฑิต (น.ม.)
Master of Laws (LL.M.)

สาขาวิชาเอกที่จะเปิดในอนาคต

  1. สาขาวิชาเอกกฎหมายระหว่างประเทศและประชาคมอาเซียน (International Law and ASEAN Community)
  2. สาขาวิชาเอกกฎหมายอาญาและกระบวนการยุติธรรมทางอาญา (Criminal Law and Criminal Justice Administration)
  3. สาขาวิชาเอกกฎหมายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (Natural Resources and Environmental Law)

ปรัชญาของหลักสูตร

  1. เพื่อผลิตนักกฎหมายที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในเนื้อหากฎหมายภายในและกฎหมายต่างประเทศเพื่อตอบสนองกับความต้องการของสังคมและทิศทางในการพัฒนาประเทศ และตอบสนองตลาดแรงงานอย่างมีคุณภาพ
  2. พื่อผลิตมหาบัณฑิตที่มีความสามารถในการศึกษา วิเคราะห์ สังเคราะห์ และมีความโดดเด่นในการค้นคว้า และวิจัยในประเด็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาประเทศ
  3. เพื่อผลิตมหาบัณฑิตที่สามารถใช้ความรู้และความชำนาญพิเศษทางกฎหมาย ในการวิเคราะห์ แก้ไขปัญหาและอุปสรรคที่เกิดขึ้นในบริบทของสังคมไทย โดยอาศัยความรู้ทางทฤษฎีกฎหมาย และสามารถเสนอแนะแนวทางในการแก้ไข ปรับปรุงและพัฒนากฎหมาย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  4. เพื่อผลิตมหาบัณฑิตที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญในสาขาวิชากฎหมายเฉพาะด้าน และมีทักษะในการใช้ การตีความกฎหมายอย่างถูกต้องและมีคุณธรรม จริยธรรม ธรรมาภิบาล เพื่อให้เกิดความยุติธรรมแก่สังคมและมีทัศนะในการพัฒนาอย่างยั่งยืน

โครงสร้างหลักสูตร

หมวดวิชาหลักสูตร แผน ก2หลักสูตร แผน ข
1. หมวดวิชาเสริมพื้นฐานไม่นับหน่วยกิตไม่นับหน่วยกิต
2. หมวดวิชาหลัก6 หน่วยกิต6 หน่วยกิต
3. หมวดวิชาเอก18 หน่วยกิต18 หน่วยกิต
4. หมวดวิชาเลือก9 หน่วยกิต
5. วิชาการค้นคว้าอิสระ3 หน่วยกิต
6. วิทยานิพนธ์12 หน่วยกิต
7. การสอบประมวลความรู้โดยสอบข้อเขียน
รวม36 หน่วยกิต36 หน่วยกิต

ผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง  (Expected Learning Outcomes : ELO)

ELO 1วิเคราะห์หลักปรัชญา แนวคิด ทฤษฎีทางกฎหมาย และแนวคำพิพากษาของศาลไทย และศาลต่างประเทศ
ELO 2ประยุกต์ใช้องค์ความรู้ทางกฎหมาย โดยเข้าใจบริบททางสังคมได้อย่างถูกต้องตามหลักนิติวิธี
ELO 3เสริมสร้างทักษะความเป็นผู้นำ การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้เทคโนโลยี และการเรียนรู้ตลอดชีวิต
ELO 4บูรณาการองค์ความรู้เพื่อพัฒนาทักษะความเป็นนักนิติศาสตร์เพื่อการพัฒนา
ELO 5ประยุกต์ใช้กฎหมายภายใต้หลักนิติธรรมเพื่อการพัฒนาสังคมอย่างเป็นธรรมและยั่งยืน

อาชีพที่สามารถประกอบได้หลังจบการศึกษา

  1. บุคลากรในกระบวนการยุติธรรม อาทิ ตำรวจ อัยการ ผู้พิพากษา
  2. พนักงานคดีปกครอง
  3. นิติกร
  4. นักกฎหมายในภาครัฐและเอกชน
  5. ทนายความ
  6. อาจารย์ และนักวิชาการด้านกฎหมายและสังคมศาสตร์
  7. นักวิชาชีพในหน่วยงานราชการหรือสถานประกอบการที่มีความรู้ทางกฎหมาย
  8. นักการเมืองและข้าราชการการเมือง
  9. นักกฎหมายในองค์การระหว่างประเทศและองค์กรพัฒนาเอกชน

ระบบการจัดการศึกษา

เป็นการศึกษาระบบทวิภาค ปีการศึกษาหนึ่งๆ แบ่งออกเป็น 2 ภาคการศึกษาปกติโดยหนึ่งภาคปกติมีระยะเวลาการศึกษาไม่น้อยกว่า 15 สัปดาห์ และอาจเปิดการศึกษาภาคฤดูร้อนที่กำหนดระยะเวลาและจำนวนหน่วยกิต เทียบเคียงได้กับภาคการศึกษาภาคปกติ

คุณสมบัติ

  1. เป็นผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีทางนิติศาสตร์ (นิติศาสตรบัณฑิต) หรือประกาศนียบัตรเทียบเท่าปริญญาตรีทางนิติศาสตร์ จากสถาบันการศึกษาของรัฐบาลหรือเอกชน ทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ได้รับการรับรองจากสำนักงาน ก.พ. หรือสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา
  2. มีประสบการณ์ทำงานไม่น้อยกว่า 1 ปี (นับถึงวันสมัคร)
  3. มีการรับรองจากผู้บังคับบัญชาว่าผู้สมัครได้ทำงานในตำแหน่ง และมีประสบการณ์ทำงานเป็นระยะเวลาตามที่ระบุไว้ในใบสมัครจริง กรณีผู้สมัครประกอบอาชีพธุรกิจส่วนตัวหรือวิชาชีพอิสระ เช่น ทนายความ จะต้องแสดงเอกสารหรือหลักฐานการประกอบอาชีพหรือวิชาชีพนั้น เช่น หลักฐานการจดทะเบียน หนังสือรับรองนิติบุคคล ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพทนายความหรือตั๋วทนายความ เป็นต้น
  4. สามารถอุทิศเวลาให้กับการศึกษาค้นคว้าตามที่กำหนดไว้ในหลักสูตรได้
  5. ในกรณีที่นักศึกษาไม่มีผลคะแนนสอบภาษาอังกฤษยื่นในวันสมัครสอบเข้า ศึกษา ต้องมีผลการสอบภาษาอังกฤษ NIDA TEAP หรือ TOEFL หรือ IELTS มาแสดงก่อนการขอสำเร็จการศึกษา

ทุนการศึกษา

  1. ทุนส่งเสริมการศึกษา (เฉพาะนักศึกษาภาคปกติ)
    • 1.1 ทุนส่งเสริมการศึกษาประเภทที่ 1
      • ผู้รับทุนจะได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมการศึกษาทั้งหมดตลอดหลักสูตร รวมทั้งสนับสนุนค่าใช้จ่ายส่วนตัวให้แก่ผู้รับทุนเดือนละ 6,000 บาท
      • ผู้รับทุนจะต้องมีผลการศึกษาระดับปริญญาตรีไม่ต่ำกว่า 3.00 และต้องศึกษาใน แผน ก (ทำวิทยานิพนธ์)
      • ผู้รับทุนต้องปฏิบัติหน้าที่ในคณะนิติศาสตร์ตามที่ได้รับมอบหมายจำนวน 12 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์
    • 1.2 ทุนส่งเสริมการศึกษาประเภทที่ 2
      • ผู้รับทุนจะได้รับการยกเว้นค่าหน่วยกิตให้แก่ผู้รับทุนตลอดหลักสูตร
      • ผู้รับทุนจะต้องมีผลการศึกษาในระดับปริญญาตรีไม่ต่ำกว่า 3.00
      • ผู้รับทุนต้องปฏิบัติหน้าที่ในคณะนิติศาสตร์ตามที่ได้รับมอบหมายจำนวน 6 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์
    • 1.3 ทุนส่งเสริมการศึกษาประเภทที่ 3
      • ผู้รับทุนจะได้รับการยกเว้นค่าหน่วยกิตจำนวนกึ่งหนึ่งให้แก่ผู้รับทุนตลอดหลักสูตร
      • ผู้รับทุนจะต้องมีผลการศึกษาในระดับปริญญาตรีไม่ต่ำกว่า 2.75
      • ผู้รับทุนต้องปฏิบัติหน้าที่ในคณะนิติศาสตร์ตามที่ได้รับมอบหมายจำนวน 6 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์
  2. ทุนยกเว้นค่าธรรมเนียมการศึกษา
    • มีวัตถุประสงค์ที่จะช่วยนักศึกษาที่มีความจำเป็นทางการเงิน
    • การยกเว้นค่าหน่วยกิตของรายวิชาตามหลักสูตร (เฉพาะภาคการศึกษาที่ได้รับทุน) ซึ่งคณะกรรมการจะพิจารณาคัดเลือกพรอมกันปีละ 2 ครั้ง ก่อนการลงทะเบียนประจำภาค 1 และภาค 2
    • ผู้รับทุนต้องปฏิบัติหน้าที่ในคณะนิติศาสตร์ตามที่ได้รับมอบหมายจำนวน 6 ชั่วโมง ต่อสัปดาห์
  3. ทุนสนับสนุนการวิจัย
    • มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนการทําวิทยานิพนธ์โดยแยกตามแหล่งเงินเป็น 2 ประเภท คือ 
    • 3.1 ทุนสนับสนุนการวิจัยจากเงินรายได้ของสถาบัน 
    • 3.2 ทุนสนับสนุนการวิจัยจากเงินงบประมาณแผนดิน

นักศึกษาผู้สนใจสามารถขอรับใบสมัครเพื่อขอรับทุน โดยยื่นใบสมัครพร้อมทั้งหลักฐานได้ที่ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของคณะนิติศาสตร์ อาคารบุญชนะ อัตถากร ชั้น 5